เชฟชาวเกาหลี Seonkyoung Longest ได้เห็นผลลัพธ์อันน่าทึ่งจากการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ด้านวิดีโอด้วยการเพิ่มจำนวนเนื้อหาแบบยาว
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปดูกันว่าเธอใช้วิธีใดเพื่อดึงดูดแฟนๆ
ผลลัพธ์
การรับชมวิดีโอบน Facebook กว่า 568 ล้านครั้งตลอดปีที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 33% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า*
วิดีโอบน Facebook กว่า 1,000 รายการตลอดปีที่ผ่านมาและเป็นวิดีโอที่มีความยาวตั้งแต่ 3 นาทีขึ้นไป ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 250% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า*
รายได้ต่อเดือนจากโฆษณาในสตรีมเพิ่มขึ้นถึง 50% (เมื่อเทียบระหว่างปี 2019 กับ ปี 2020) รายได้ต่อเดือนเพิ่มขึ้นถึง 100% เมื่อเทียบระหว่างเดือนธันวาคม 2018 กับเดือนเมษายน 2020
15% ของจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ seonkyounglongest.com มาจาก Facebook ซึ่งมากกว่าแหล่งการอ้างอิงจากภายนอกอื่นๆ (เมษายน 2019 - เมษายน 2020)
*ข้อมูลจาก CrowdTangle เมื่อเทียบระหว่างวันที่ 8 เมษายน 2019 - วันที่ 8 เมษายน 2020 กับ วันที่ 8 เมษายน 2018 - วันที่ 8 เมษายน 2019
ความท้าทาย
Seonkyoung Longest เป็นเชฟชาวเกาหลีที่ย้ายถิ่นฐานไปยังสหรัฐฯ และได้ตั้งรกรากอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียตั้งแต่ปี 2014 Seonkyoung เป็นคนที่มีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้สูง เมื่อสิบปีก่อน เธอได้เริ่มทำอาหารเป็นงานอดิเรกเท่านั้น แต่กลับตกหลุมรักการทำอาหารอย่างรวดเร็ว และเธอก็ต้องการแบ่งปันความหลงใหลนี้ให้กับคนอื่นๆ เธอเริ่มต้นจากการถ่ายทำวิดีโอเกี่ยวกับการทำอาหารที่บ้าน โดยที่ไม่ได้กำหนดแผนการทำงานไว้อย่างจริงจังนัก แต่พลังและความเป็นตัวของตัวเองของเธอทำให้เธอได้รับความนิยมอย่างมาก และจากนั้นไม่นาน เว็บไซต์ของ Seonkyoung ก็ได้ขยายไปสู่อาณาจักรโซเชียลมีเดียพร้อมกับผู้ติดตามกว่าสามล้านคนบน Facebook
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Seonkyoung ได้ก้าวพ้นการทำอาหารเฉยๆ และเริ่มสร้างรายการอาหารเชิงท่องเที่ยวและสูตรอาหารขึ้นมาเช่นกัน เพื่อให้การเติบโตเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เธอพยายามพัฒนากลยุทธ์ด้านเนื้อหาบนโซเชียลเพื่อเพิ่มอัตราการใช้งานต่อเนื่องของผู้ชม กระตุ้นให้ผู้คนไปยังเว็บไซต์ อีกทั้งพัฒนาการมีส่วนร่วมและความสัมพันธ์กับแฟนๆ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
กลยุทธ์
ในอดีต Seonkyoung โพสต์วิดีโออย่างน้อย 1 วิดีโอและรูปภาพ 2 รูปต่อวันบน Facebook พร้อมกับรายการทำอาหารรายสัปดาห์ผ่าน Facebook Live และวิดีโอสูตรอาหารบน IGTV ทุกๆ 2 สัปดาห์ แต่เพื่อนำเสนอเนื้อหาแก่ผู้ชมให้ดียิ่งขึ้น เธอจึงได้โพสต์เนื้อหามากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา โดยโพสต์วิดีโอวันละหลายวิดีโอ และเน้นการอัพโหลดวิดีโอที่มีความยาวตั้งแต่ 3 นาทีขึ้นไป ซึ่งครอบคลุมหัวข้อต่อไปนี้
วิดีโอสูตรอาหาร
วิดีโอทำอาหาร
ซีรีส์การทำอาหารถ่ายทอดสด
วิดีโอตระเวนชิมอาหาร
"ฉันเริ่มจากการถ่ายภาพอาหารที่เสร็จแล้วให้สวยงาม จากนั้นลดขนาดเนื้อหาลงให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้โดยที่ยังคงสูตรอาหารและ/หรือวัตถุประสงค์ของวิดีโอเอาไว้ และผู้คนบน Facebook ก็ชื่นชอบนิสัยใจคอของฉันอีกด้วย เราจึงถ่ายทอดสดบน Facebook เป็นประจำทุกวันพุธ สิ่งนี้ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อและสร้างกลุ่มผู้ชมในแพลตฟอร์มทั้งหมดได้ ปกติแล้วเราจะมีผู้ชมประมาณ 3-4 พันคนระหว่างช่วงถ่ายทอดสด และเมื่อการถ่ายทอดสดจบลงและถูกโพสต์ลงเพจของฉันแล้ว จะมีจำนวนการรับชมวิดีโอเฉลี่ยประมาณ 200,000 ครั้ง"
นับตั้งแต่มีมาตรการ "อยู่กับบ้าน" เพื่อต่อต้านการแพร่ระบาดของโควิด-19 Seonkyoung ได้เริ่มถ่ายทำวิดีโอผ่าน Facebook Live ทุกวัน เพื่อมอบความบันเทิงให้กับแฟนๆ ในช่วงกักตัว เธอยังกล่าวเสริมอีกว่า รายการทำอาหารนี้ทำให้เธอ "สร้างความผูกพันที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และอยู่เคียงข้างผู้ติดตามของฉันในช่วงเวลาอันแสนยุ่งเหยิงนี้"
การเพิ่มจำนวนวิดีโอความยาวตั้งแต่ 3 นาทีขึ้นไปของ Seonkyoung ทำให้เธอประสบความสำเร็จด้วยรายได้จากโฆษณาในสตรีม เนื่องจากวิดีโอเหล่านี้เป็นไปตามนโยบายการสร้างรายได้ในสตรีม เธอเริ่มใช้โฆษณาในสตรีมตั้งแต่ปลายปี 2018 และปรับเปลี่ยนหัวข้อของเนื้อหาตลอดปี 2019 เพื่อดูว่าวิดีโอใดสร้างรายได้ได้ดีที่สุด
ตั้งแต่ปลายปี 2019 จนถึงเดือนเมษายนปี 2020 Seonkyoung ได้ใช้กลยุทธ์การโพสต์ที่ประสบความสำเร็จจนคุ้นเคยแล้ว จึงทำให้เกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งดูได้จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นต่อเดือนประมาณ 50% เมื่อเทียบระหว่างปี 2020 กับ 2019
