เราค่อยๆ พัฒนาการทดสอบโบนัสจาก Reels Play บน Instagram และ Facebook เพราะเราให้ความสำคัญกับการลงทุนในชุดโปรแกรมสำหรับสร้างรายได้เพื่อช่วยให้ครีเอเตอร์มีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เราได้หยุดเสนอและต่ออายุข้อเสนอ Reels Play ใหม่แก่ครีเอเตอร์บน Instagram และ Facebook ทั่วโลกแล้วตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม 2023 เราจะยังคงทำตามข้อเสนอ Reels Play ที่มีอยู่แล้วทั้งบน Instagram และ Facebook เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีอื่นๆ ในการสร้างรายได้บน Instagram และ Facebook คลิกที่นี่.
เราขอประกาศฟีเจอร์และเครื่องมือใหม่ๆ หลายรายการทั้งบน Facebook และ Instagram เพื่อช่วยให้ครีเอเตอร์เชื่อมต่อกับแฟนๆ ได้ดียิ่งขึ้น มีธุรกิจเป็นของตนเอง และเตรียมพร้อมก้าวเข้าสู่เมตาเวิร์ส
เราเตรียมสานต่อความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับโปรแกรมสมาชิก เครื่องหมาย งานกิจกรรมออนไลน์แบบมีค่าเข้าร่วม และ Bulletin ไปจนถึงวันที่ 1 มกราคม 2024
เรายังได้เปิดตัวฟีเจอร์ Facebook Stars ให้ครีเอเตอร์ทุกรายที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ได้ใช้งาน โดยได้เพิ่มตัวเลือกการสร้างรายได้สำหรับ Reels รวมถึงทดสอบพื้นที่ที่ให้แบรนด์และครีเอเตอร์สามารถเชื่อมต่อกันบน Instagram ได้อย่างง่ายดาย เปิดตัววิธีใหม่ๆ ที่จะทำให้คุณได้ใกล้ชิดกับสมาชิกของตนเองในแพลตฟอร์มอื่นๆ ตลอดจนขยายการทดสอบเกี่ยวกับของสะสมดิจิทัลให้กว้างขึ้นอีกด้วย
เรากำลังขยายวิธีที่ครีเอเตอร์สามารถสร้างรายได้บน Facebook และ Instagram ได้ในปัจจุบัน รวมถึงแบ่งปันข้อมูลอัพเดตเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะช่วยเหลือครีเอเตอร์ในระหว่างที่เราสร้างเมตาเวิร์ส
นอกจากนี้ เรายังได้สานต่อความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับโปรแกรมสมาชิก เครื่องหมาย งานกิจกรรมออนไลน์แบบมีค่าเข้าร่วม และ Bulletin ต่ออีกหนึ่งปีไปจนถึงวันที่ 1 มกราคม 2024 ด้วยเช่นกัน
เปิดตัวฟีเจอร์ดาวให้ครีเอเตอร์ทุกรายที่มีคุณสมบัติครบถ้วนได้ใช้งาน
ล่าสุดฟีเจอร์ Facebook Stars ได้เปิดให้ครีเอเตอร์ทุกรายที่มีคุณสมบัติได้ใช้งานในหลากหลายรูปแบบแล้วไม่ว่าจะเป็น Facebook Live, วิดีโอออนดีมานด์ รวมถึง Facebook Reels ที่จะเปิดให้ได้ใช้งานในเร็วๆ นี้ โดยเราอยู่ระหว่างขยายการทดสอบฟีเจอร์ดาวบน Reels ไปยังครีเอเตอร์นับหมื่นรายและจะเปิดให้ครีเอเตอร์ทุกๆ รายที่ใช้งานฟีเจอร์ดาวได้ใช้งานกันอย่างเต็มรูปแบบในอีกไม่เดือนข้างหน้านี้
ดาว ซึ่งเป็นสินค้าดิจิทัลที่แฟนๆ สามารถซื้อและส่งเพื่อเป็นการสนับสนุนครีเอเตอร์ได้ ช่วยให้ครีเอเตอร์มีรายได้และสร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับผู้ชมของตน โดยในปัจจุบัน ครีเอเตอร์ทุกรายที่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติดังต่อไปนี้จะสามารถเริ่มต้นรับดาวจากแฟนๆ ของตนเองได้
มีผู้ติดตามอย่างน้อย 1,000 คนในช่วง 60 วันที่ผ่านมา
อาศัยอยู่ในตลาดใดตลาดหนึ่งดังต่อไปนี้ ซึ่งได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฟิลิปปินส์ แคนาดา เม็กซิโก สหราชอาณาจักร ไต้หวัน ไทย อินโดนีเซีย ฝรั่งเศส เปรู มาเลเซีย บราซิล อินเดีย โคลอมเบีย อิตาลี สเปน เยอรมนี นิวซีแลนด์ โปรตุเกส เบลเยียม ชิลี ออสเตรเลีย และอาร์เจนตินา
เราได้เห็นทั้งครีเอเตอร์หน้าเก่าและหน้าใหม่ประสบความสำเร็จจากการใช้งานฟีเจอร์ดาวกันอยู่เรื่อยๆ ตั้งแต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามไปจนถึงครีเอเตอร์เกม ทั้ง Dr. Jen Caudle, Hillary Klug และ Lipstickfables ต่างก็ประสบความสำเร็จจากการใช้งานฟีเจอร์ดาวบนวิดีโอถ่ายทอดสด วิดีโอออนดีมานด์ (VOD) ด้วยการสร้างการรับรู้ในหมู่แฟนๆ และโพสต์คอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งฟีเจอร์ดาวบน Reels ได้ช่วยให้ครีเอเตอร์อย่าง Nicholas Safier และ Dr. Kojo Sarfo ได้สร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับผู้ชมของตนเองด้วยเช่นกัน นี่จึงเป็นเหตุผลให้เราเปิดให้ครีเอเตอร์สามารถใช้งานฟีเจอร์ดาวได้ในช่วงเริ่มต้นของเส้นทางการเป็นครีเอเตอร์ ตั้งแต่ที่พวกเขาเริ่มต้นสร้างธุรกิจของตนบน Facebook ทั้งนี้ ครีเอเตอร์สามารถตรวจสอบคุณสมบัติของตนเองและเริ่มต้นใช้งานฟีเจอร์ดาวได้ที่นี่
ครีเอเตอร์สามารถเริ่มต้นใช้งาน ตรวจสอบรายได้จากดาวตามประเภทคอนเทนต์ จัดการจำนวนดาวเป้าหมาย และเข้าถึงการตั้งค่าอื่นๆ ของฟีเจอร์ดาวได้ง่ายยิ่งขึ้นแล้วตอนนี้ โดยครีเอเตอร์บน iOS สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ดาวได้โดยตรงจากช่องเขียนโพสต์บนมือถือในประสบการณ์เพจรูปแบบใหม่ในขณะที่สร้างโพสต์ และเมื่อครีเอเตอร์มีสิทธิ์ใช้งานฟีเจอร์ดาว ครีเอเตอร์จะสามารถเปิดหรือปิดฟีเจอร์นี้ในโพสต์ของตนเองได้จากช่องเขียนโพสต์โดยตรง นอกจากนี้ เรายังจะเปิดให้ครีเอเตอร์เริ่มต้นใช้งานฟีเจอร์ดาวผ่านทางครีเอเตอร์สตูดิโอได้อีกด้วย
Reels เป็นรูปแบบคอนเทนต์ที่เติบโตเร็วที่สุดในแพลตฟอร์มของเรา และเราต้องการช่วยให้ครีเอเตอร์มีโอกาสในการสร้างรายได้มากที่สุด โดยเราได้ประกาศเกี่ยวกับโปรแกรมโบนัส Reels Play ของ Facebook ซึ่งเป็นโปรแกรมที่มอบโอกาสให้ครีเอเตอร์ได้สร้างรายได้จาก Facebook ผ่านการสร้างและแชร์คลิป Reels ที่ตรงตามเกณฑ์ไปยังสาธารณะบนแพลตฟอร์ม Facebook ไปเมื่อปีที่ผ่านมา
ถึงแม้ว่าปัจจุบันโปรแกรมนี้จะยังเปิดให้เข้าร่วมได้เฉพาะครีเอเตอร์บางส่วนที่ได้รับเชิญเท่านั้น ทว่าตอนนี้เราได้เปิดกระบวนการสมัครเข้าร่วมโปรแกรมให้ครีเอเตอร์ที่อยู่ในสหรัฐฯ สมัครเข้าร่วมโปรแกรมด้วยตนเองได้แล้ว โดยเราขอแนะนำครีเอเตอร์ที่อยู่ในสหรัฐฯ และผ่านเกณฑ์คุณสมบัติดังต่อไปนี้ให้สมัครเข้าร่วมโปรแกรมดังกล่าว
มีคลิป Reels ต้นฉบับตั้งแต่ 5 คลิปขึ้นไปในช่วง 30 วันที่ผ่านมา
มียอดการเล่นคลิปมากกว่า 100,000 ครั้งในช่วง 30 วันที่ผ่านมา
ปฏิบัติตามนโยบายการสร้างรายได้ของพาร์ทเนอร์และนโยบายการสร้างรายได้จากเนื้อหาของเรา
นอกจากนี้ เรายังได้ทดสอบวิธีต่างๆ ที่ครีเอเตอร์จะสามารถสร้างรายได้จากคอนเทนต์ที่โพสต์ข้ามแพลตฟอร์มทั้งบน Instagram และ Facebook ยกตัวอย่างเช่น คลิป Reels ที่โพสต์ข้ามจาก Instagram ไปยัง Facebook อาจมีสิทธิ์ได้รับส่วนแบ่งรายได้จากโฆษณาแบบโอเวอร์เลย์บน Facebook โดยเราอยู่ระหว่างเปิดตัวโฆษณาแบบโอเวอร์เลย์บน Facebook ในหลายตลาดทั่วโลก รวมถึงในโปรแกรมโบนัส Reels Play ของ Facebook ด้วย
ไม่เพียงแค่นั้น ในอนาคตครีเอเตอร์ยังจะสามารถใช้ป้ายกำกับ 'ได้รับสปอนเซอร์จาก' ในเนื้อหาที่มีแบรนด์บน Facebook Reels ซึ่งจะช่วยให้สปอนเซอร์แปลงเนื้อหาดังกล่าวเป็นโฆษณาเนื้อหาที่มีแบรนด์ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย
เราจะเริ่มต้นทดสอบ Creator Marketplace บน Instagram ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ให้แบรนด์และครีเอเตอร์ได้เป็นพาร์ทเนอร์ในการสร้างเนื้อหาที่มีแบรนด์ได้ง่ายยิ่งขึ้นในเร็วๆ นี้
ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ครีเอเตอร์จะสามารถกำหนดแบรนด์และหัวข้อที่ตนสนใจที่จะนำมาสร้างเนื้อหาที่มีแบรนด์ สำรวจโอกาสต่างๆ ในการเป็นพาร์ทเนอร์กับแบรนด์ที่ได้รับการรับรอง ตลอดจนจัดการกับข้อเสนอที่แบรนด์ยื่นให้ได้โดยไม่ต้องออกจากแอพ อีกทั้งเราจะเริ่มต้นทดสอบการชำระเงินในแอพเพื่อให้แบรนด์สามารถจ่ายเงินค่าเนื้อหาที่มีแบรนด์ให้กับครีเอเตอร์ได้ผ่านทาง Instagram เมื่อโปรเจ็กต์นั้นๆ จบลงแล้ว
นอกจากนี้ แบรนด์ยังจะสามารถค้นหาและร่วมงานกับครีเอเตอร์บน Instagram ผ่านทาง Meta Business Suite โดยใช้ตัวกรองข้อมูลทางประชากรศาสตร์และความสนใจของครีเอเตอร์และกลุ่มเป้าหมายของครีเอเตอร์รายนั้นๆ ได้อีกด้วย โดยเมื่อแบรนด์พบครีเอเตอร์ที่ตนต้องการร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ด้วย แบรนด์จะสามารถส่งโปรเจ็กต์พร้อมรายละเอียดต่างๆ ในการร่วมงานกัน ซึ่งรวมถึงตัวงานที่ต้องนำส่งและการชำระเงินได้ ซึ่งเมื่อครีเอเตอร์โพสต์เนื้อหาที่มีแบรนด์ที่เป็นโปรเจ็กต์บนครีเอเตอร์มาร์เก็ตเพลส ระบบก็จะอนุมัติสิทธิ์การอนุญาตให้ใช้งานป้าย 'ได้รับสปอนเซอร์' โดยอัตโนมัติ และในกรณีที่ข้อเสนอดังกล่าวรวมถึงการโปรโมทคอนเทนต์นั้นในรูปแบบโฆษณาด้วย ระบบก็จะอนุมัติสิทธิ์การอนุญาตดังกล่าวโดยอัตโนมัติด้วยเช่นกัน
ก่อนหน้านี้เราได้ประกาศเกี่ยวกับโฟลเดอร์การส่งข้อความเพื่อร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ภายใน DM ของ Instagram รวมถึงตัวกรองที่ช่วยให้แบรนด์และครีเอเตอร์ได้ค้นหาอีกฝ่ายหนึ่งไป อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ฟีเจอร์เหล่านี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของครีเอเตอร์มาร์เก็ตเพลสแล้วเรียบร้อย โดยเราจะเปิดการทดสอบในแบรนด์และครีเอเตอร์บางรายที่อยู่ในสหรัฐฯ และจะขยายสิทธิ์การใช้งานครีเอเตอร์มาร์เก็ตเพลสออกไปในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
กลุ่มบน Facebook ที่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลของสมาชิกได้
เรารู้ว่าครีเอเตอร์จำนวนมากมีฐานแฟนคลับอยู่บนหลากหลายแพลตฟอร์มออนไลน์ ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้ประกาศการลงทุนครั้งแรกในเครื่องมือการสร้างรายได้สำหรับครีเอเตอร์ที่สามารถทำงานร่วมกับเครื่องมือบนแพลตฟอร์มอื่นๆ ได้ โดยเครื่องมือดังกล่าวคือ กลุ่มที่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลของสมาชิกได้ เครื่องมือชิ้นนี้จะช่วยให้ครีเอเตอร์ได้รับเงินจากแฟนๆ ของตนบนแพลตฟอร์มอื่นๆ และสามารถมอบสิทธิ์การเข้าถึงฟีเจอร์สุดพิเศษบน Facebook โดยเริ่มต้นจากกลุ่มบน Facebook สำหรับสมาชิกเท่านั้น ได้อย่างไร้รอยต่อ
กลุ่มที่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลของสมาชิกได้ไม่เพียงแต่จะลดเวลาที่ครีเอเตอร์ใช้ในการสร้างบ้านสำหรับคอมมูนิตี้ของตนบน Facebook แล้ว แต่ยังช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถมอบสิทธิประโยชน์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ รวมถึงประสบการณ์ของผู้ใช้ที่เรียบง่ายขึ้นให้กับแฟนๆ ที่จ่ายเงินให้กับตนได้อีกด้วย โดยขณะนี้เรากำลังทดสอบผลิตภัณฑ์ดังกล่าวกับพาร์ทเนอร์บางรายและมีแผนจะเพิ่มแพลตฟอร์มอื่นๆ และฟีเจอร์ต่างๆ สำหรับสมาชิกจากหลายแพลตฟอร์มให้มากขึ้นต่อไปในอนาคต
หนึ่งในพาร์ทเนอร์รายแรกๆ ของเราสำหรับกลุ่มที่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลของสมาชิกได้คือ MemberPress ซึ่งเป็นปลั๊กอินสำหรับสมาชิกและการสมัครรับข้อมูลของ WordPress ที่ทำให้ครีเอเตอร์อย่าง Rachel Lessenden จาก Health My Lifestyle สามารถจัดการการชำระเงินบนเว็บไซต์ของเธอที่สนับสนุนโดย MemberPress และเพิ่มสมาชิกรายใหม่ๆ ลงในกลุ่มบน Facebook สำหรับสมาชิกเท่านั้นได้อย่างไร้รอยต่อ
เรายังได้เป็นพาร์ทเนอร์กับ Acast ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเกี่ยวกับพอดแคสต์ที่ช่วยให้แฟนๆ ได้สนับสนุนครีเอเตอร์ที่ตนชื่นชอบได้โดยตรง อาทิ Jessica Matlin และ Jennifer Sullivan สองผู้จัดรายการพอดแคสต์เกี่ยวกับความงามที่มีชื่อว่า "Fat Mascara" โดยในเร็วๆ นี้ สมาชิกพอดแคสต์ Acast+ ของพวกเธอจะสามารถเข้าร่วมกลุ่มบน Facebook สำหรับสมาชิกเท่านั้นจากฟีดพอดแคสต์ของตนได้ทันที
นอกจากนี้ เรายังตื่นเต้นที่จะได้เป็นพาร์ทเนอร์กับแพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นโดยครีเอเตอร์เองอย่างครีเอเตอร์ Nuseir Yassin จาก Nas Daily อีกด้วย โดยเว็บไซต์ Nas Academy ของเขาจะมอบเครื่องมือต่างๆ ที่ช่วยให้ครีเอเตอร์ได้สร้างคอมมูนิตี้แห่งการเรียนรู้ ซึ่งแทนที่ครีเอเตอร์จะต้องสร้างเครื่องมือการมีส่วนร่วมในคอมมูนิตี้ที่ต้องมาปรับแต่งเอง พวกเขาสามารถใช้งานกลุ่มที่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลของสมาชิกได้เพื่อย้ายการสนทนาไปยังกลุ่มบน Facebook ได้อย่างไม่มีสะดุด
ฟีเจอร์ใหม่ๆ สำหรับโปรแกรมสมาชิกบน Facebook
เรากำลังจะเปิดตัวเครื่องมือใหม่ๆ สำหรับผลิตภัณฑ์โปรแกรมสมาชิกบน Facebook เพื่อช่วยให้ครีเอเตอร์ได้สร้างสายสัมพันธ์กับแฟนๆ ของตนอย่างแท้จริงต่อไป โดยปัจจุบันครีเอเตอร์สามารถทำสิ่งต่อไปนี้ได้แล้ว
แชร์โพสต์ที่มีเพียงสมาชิกเท่านั้นที่เห็นได้ผ่านทางช่องเขียนโพสต์บนมือถือ
เข้าถึงโปรแกรมสมาชิกผ่านทางมือถือ (จากเดิมที่สามารถเข้าถึงได้บนเดสก์ท็อปเท่านั้น)
ทักทายสมาชิกใหม่ด้วยโพสต์และสตอรี่ขอบคุณ
รับคำแนะนำเกี่ยวกับความคิดเห็นที่มีความสำคัญสูง เพื่อไม่ให้คุณพลาดสิ่งที่สำคัญไป
การลงทุนในเทคโนโลยี web3 และของสะสมดิจิทัลอย่าง NFT เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในความมุ่งมั่นระยะยาวที่เรามีต่อครีเอเตอร์ในระหว่างที่เราสร้างเมตาเวิร์ส โดยเราได้เห็นแล้วว่าครีเอเตอร์อย่าง @misshattan, @nylacollection_nft, @amber_vittoria และ @bossbeautiesnft ต่างก็ประสบความสำเร็จจากการแชร์ NFT ของตนให้กับคอมมูมิตี้บน Instagram
เรากำลังขยายการทดสอบเกี่ยวกับของสะสมดิจิทัลบน Instagram ไปยังครีเอเตอร์รายอื่นๆ จากทั่วโลกและในบางประเทศเพิ่มเติม โดยครีเอเตอร์และนักสะสมจะสามารถแชร์ของสะสมดิจิทัลของตนทั้งบน Facebook และ Instagram ได้หลังจากที่เราเริ่มเปิดตัวฟีเจอร์นี้บน Facebook สำหรับครีเอเตอร์บางรายในสหรัฐฯ และในเร็วๆ นี้เราก็จะเริ่มต้นทดสอบ NFT ใน Instagram Stories ร่วมกับ Spark AR ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ เรายังได้รวบรวมคู่มือเกี่ยวกับลักษณะการทำงานของ NFT และเหตุผลที่ NFT มีความสำคัญต่อเมตาเวิร์สไว้ให้คุณอีกด้วย
เราจะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการโพสต์หรือแชร์ของสะสมดิจิทัลบน Instagram และในขณะนี้ เราจะยังไม่เปิดให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนโพสต์ของสะสมดิจิทัลของตนให้กลายเป็นโฆษณาได้
เราเข้าใจดีว่า NFT ทำให้เกิดคำถามที่สำคัญเกี่ยวกับความยั่งยืน ทั้งนี้ ในฐานะส่วนหนึ่งของปณิธานของ Meta ที่มีต่อความยั่งยืน เราจะซื้อพลังงานหมุนเวียนเพื่อช่วยลดผลกระทบจากการปล่อยมลพิษที่อาจเกี่ยวข้องกับของสะสมดิจิทัล
เนื่องจากเรากำลังเปิดตัวของสะสมดิจิทัลบน Facebook และ Instagram อย่างต่อเนื่อง เราจึงได้เริ่มมอบความสามารถใหม่ที่ให้ผู้คนได้โพสต์ของสะสมดิจิทัลที่ตนเป็นเจ้าของทั้งบน Facebook และ Instagram ความสามารถนี้จะช่วยให้พวกเขาเชื่อมต่อกระเป๋าเงินดิจิทัลเข้ากับหนึ่งในแอพข้างต้นและแชร์ของสะสมดิจิทัลของตนเองไปยังทั้งสองแพลตฟอร์มได้
ข้อมูลอัพเดต ณ วันที่ 20 ตุลาคม 2022: เรากำลังขยายความสามารถในการแสดงของสะสมดิจิทัลบน Facebook ไปยังประเทศต่างๆ เพิ่มอีก 100 ประเทศในทวีปแอฟริกา เอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และทวีปอเมริกา โดยครีเอเตอร์และเจ้าของของสะสมดิจิทัลในประเทศที่ใช้งานฟีเจอร์นี้ได้จะสามารถเชื่อมต่อกับกระเป๋าเงินดิจิทัลจากภายนอกที่เรารองรับและแชร์ของสะสมดิจิทัลของตนเองทั้งบน Facebook และ Instagram ได้